คำขวัญ

“มีวินัย ใฝ่เรียนรู้ อยู่อย่างพอเพียง”

ประวัติโรงเรียน

ประวัติของโรงเรียน

ที่ตั้งโรงเรียน

 เมษายน ปี พ.ศ.๒๕๑๗ ชาวบ้านร่วมกันอุทิศกำลังทรัพย์ สิ่งของ และแรงงาน สร้างอาคาร

เรียนชั่วคราวหลังคามุงหญ้าคา (ซึ่งต่อมาชำรุด รื้อถอนปลายปี ๒๕๑๙ )

 พฤษภาคม ปี พ.ศ.๒๕๑๗ เปิดเรียนวันแรกที่อาคารชั่วคราว ชาวบ้านร่วมกันทำบุญตักบาตร

และทำการสอน โดยมีนายประยูร คงประเสริฐรักษาการในตำแหน่งครูใหญ่

ยุคปรับเป็นโรงเรียนรัฐบาล

 มิถุนายน ปี พ.ศ.๒๕๑๘ ได้รับงบประมาณจากองค์การบริหารส่วนจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ 

จำนวนเงิน ๓๒,๐๐๐ บาท ก่อสร้างบ้านพักครูหลังที่ ๑

 ตุลาคม ปี พ.ศ.๒๕๑๘ ได้รับงบประมาณจากองค์การบริหารส่วนจังหวัดประจวบคีรีขันธ์  

จำนวนเงิน ๓๖,๐๐๐ บาท ก่อสร้างบ้านพักครูหลังที่ ๒ (รื้อถอนแล้ว)

 พฤศจิกายน ปี พ.ศ.๒๕๑๘ ได้รับงบประมาณจากองค์การบริหารส่วนจังหวัด

ประจวบคีรีขันธ์  จำนวนเงิน ๒๐,๐๐๐ บาท ก่อสร้างส้วมขนาด ๕ ห้อง ๑ หลัง

 ปี พ.ศ.๒๕๑๘ ได้รับงบประมาณจากองค์การบริหารส่วนจังหวัดประจวบคีรีขันธ์         จำนวน

เงิน ๑๕๐,๐๐๐ บาท ก่อสร้างอาคารเรียนถาวรแบบ ป ๑ จ. ขนาด ๔ห้องเรียน จำนวน ๑ หลัง  (ได้รับอนุมัติรื้อถอน)

                   สิงหาคม ปี พ.ศ.๒๕๑= พระครูประเวทย์วรญาณ (อาจารย์นคร) เจ้าอาวาสวัดเขาอิติสุคโต บริจาคเงิน จำนวนเงิน ๓,๐๐๐ บาท สร้างเสาธง

                    พฤษภาคม ปี พ.ศ.๒๕๒๑ โรงเรียนได้ขยายชั้นเรียนถึงชั้นประถมศึกษาปีที่ 5

                   สิงหาคม ปี พ.ศ.๒๕๒๑ ได้รับเงินภาษีบำรุงท้องที่จากสภาตำบลหินเหล็กไฟ จำนวนเงิน 12,518 บาท สร้างรั้วลวดหนาม

 พฤษภาคม ปี พ.ศ.๒๕๒๒ โรงเรียนขยายชั้นเรียนถึงชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 ตามหลักสูตรประถมศึกษาพุทธศักราช ๒๕๒๑

 ตุลาคม ปี พ.ศ.๒๕๒๒ ได้รับงบประมาณจากองค์การบริหารส่วนจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ จำนวนเงิน ๗๕๐,๐๐๐ บาท ก่อสร้างอาคารเรียนถาวร หลังที่ ๒ แบบ ๐๑๗ (อาคารใต้ถุนสูง) ๔ ห้องเรียน ๑ หลัง

 กันยายน ปี พ.ศ.๒๕๒๖ ได้รับงบประมาณจากสำนักงานคณะกรรมการการประถมศึกษาแห่งชาติจำนวนเงิน ๑๗๕,๐๐๐ บาท ก่อสร้างอาคารเอนกประสงค์แบบ สปช. ๒๐๒/๒๕๒๖

 ปี พ.ศ.๒๕๓๐ ได้รับงบประมาณจากสำนักงานคณะกรรมการการประถมศึกษาแห่งชาติ  จำนวนเงิน ๒๐,๐๐๐ บาท ก่อสร้างเรือนเพาะชำแบบ พ. ๑ จำนวน ๑ หลัง (รื้อถอนแล้ว)

                    ปี พ.ศ.๒๕๓๙ ได้รับงบประมาณจากสำนักงานคณะกรรมการการประถมศึกษาแห่งชาติ  สร้างห้องปฏิบัติการทางวิทยาศาสตร์และห้องปฏิบัติการทางภาษา จำนวน ๒ ห้อง

                    ปี พ.ศ.๒๕๔๑ ได้รับงบประมาณจากสำนักงานคณะกรรมการการประถมศึกษาแห่งชาติ จำนวนเงิน ๒๔๘,๒๕๐ บาท ต่อเติมอาคารเรียนแบบ ๐๑๗ ชั้นล่างจำนวน ๓ ห้อง

                    ปี พ.ศ.๒๕๔๒ ได้รับงบประมาณจากสำนักงานคณะกรรมการการประถมศึกษาแห่งชาติ จำนวนเงิน ๘๒,๗๕๐ บาท ต่อเติมอาคารเรียนแบบ ๐๑๗ ชั้นล่างจำนวน ๑ ห้อง

                   พฤษภาคม ปี พ.ศ.๒๕๔๓ ได้รับงบประมาณจากสำนักงานคณะกรรมการการประถมศึกษาแห่งชาติจำนวนเงิน ๑๐๐,๐๐๐ บาท สร้างลานกีฬาเอนกประสงค์แบบกรมพละ

                    ปี พ.ศ.๒๕๔๔ ได้รับบริจาคจากผู้ปกครองนักเรียน จำนวนเงิน ๔๐,๐๐๐ บาท ก่อสร้างส้วม จำนวน ๔ ที่ (แบบอื่นอื่น)

                   กุมภาพันธ์ ปี พ.ศ.๒๕๔๕ ได้รับงบประมาณจากสำนักงานคณะกรรมการการประถมศึกษาแห่งชาติจำนวนเงิน ๙๐,๘๐๐ บาท สร้างส้วมแบบ สปช. ๖๐๑/๒๖

                       ตุลาคม ปี พ.ศ.๒๕๕๓  ได้รับงบประมาณจากคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน ตามโครงการไทยเข้มแข็ง (SP2) ก่อสร้างอาคารเรียนแบบ สปช.๑๐๑/๒๖ ต่อมาได้ต่อเติมด้านล่างของอาคาร

                        มีนาคม ปี พ.ศ.๒๕๕๗  ได้รับการสนับสนุนสร้างอาคารจากมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีมหานคร มาสร้างอาคารห้องประชุม ด้วยงบประมาณ ๒๗๕,๐๐๐ บาท

                        ธันวาคม ปี พ.ศ.๒๕๖๐  ได้รับการสนับสนุนจากชาวบ้านหนองซอ หนองตาแวว รวมถึงร้านทองเจริญดีหัวหิน ในการร่วมสร้างรั้วโรงเรียนด้านหน้า ในราคาช่องละ ๖,๐๐๐ บาท และร้านทองเจริญดีหัวหิน ได้บริจาคป้ายโรงเรียนเป็นเงิน ๒๕๐,๐๐๐ บาท พร้อมทั้งบริษัท GDH จำกัด ได้บริจาคเงินอีก ๓๓๖,๐๐๐ บาท ในการสร้างรั้วด้านข้างทิศตะวันตก

            โรงเรียนบ้านหนองซอตั้งอยู่ เลขที่ ๙๒ หมู่ ๖ ตำบลหินเหล็กไฟ อำเภอหัวหิน จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ รหัสไปรษณีย์ ๗๗๑๑๐

ยุคก่อตั้ง

การจัดตั้งโรงเรียนภายใต้ความต้องการของประชาชน ในตำบล หมู่บ้าน จึงร่วมกันจัดตั้งโรงเรียนขึ้นในโรงเรียนบ้านหนองซอ ตั้งอยู่หมู่ที่ ๖ ตำบลหินเหล็กไฟ อำเภอหัวหิน จังหวัดประจวบคีรีขันธ์โดยชาวบ้านได้ร่วมกันเสียสละทุนทรัพย์ซื้อที่ดินจากนางครวญ เนียมหอม แบ่งเป็นอาณาเขตโรงเรียนบ้านหนองซอ  จำนวน ๗ ไร่ ๒ งาน ที่เหลือสร้างเป็นสำนักสงฆ์หนองซอ เริ่มเปิดทำการสอนในปีการศึกษา ๒๕๑๗ ตั้งแต่ ชั้นประถมศึกษาปีที่ ๑ ถึง ชั้นประถมศึกษาปีที่ ๔ โดยรับโอนเด็กจากโรงเรียนบ้านหนองตะเภา

วิสัยทัศน์

วิสัยทัศน์ (Vision)

 “โรงเรียนบ้านหนองซอ มุ่งพัฒนาโรงเรียนให้มีคุณภาพ สร้างสังคมแห่งการเรียนรู้คู่ชุมชน บนพื้นฐานหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง ผู้เรียนเป็นพลเมืองดี มีวินัย รักความเป็นไทย มีคุณธรรม จริยธรรม ดำรงตนอย่างมีความสุข”

พันธกิจ (Mission)

          ๑. พัฒนาโรงเรียนให้มีคุณภาพ บรรยากาศเอื้อต่อการเรียนรู้

          ๒. พัฒนาผู้เรียนให้มีคุณภาพตามมาตรฐานการศึกษา มีความรู้คู่คุณธรรม เป็นพลเมืองดี มีวินัย รักความเป็นไทย และดำรงตนอย่างมีความสุข

          ๓. ส่งเสริม พัฒนาครูและบุคลากรทางการศึกษา ให้มีสมรรถนะตรงตามสายงาน  และมีวัฒนธรรมการทำงานที่มุ่งเน้นผลสัมฤทธิ์อย่างมืออาชีพ

          ๔. บริหารจัดการโรงเรียนโดยใช้โรงเรียนเป็นฐาน ตามหลักธรรมาภิบาลและหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง

          ๕. ส่งเสริมประสานความร่วมมือกับผู้ปกครอง ศิษย์เก่า ภาคีเครือข่าย ผู้นำทุกภาคส่วนในชุมชนเพื่อสนับสนุนการจัดการศึกษา

          ๖. ส่งเสริมการน้อมนำหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง

พันธกิจ

พันธกิจ (Mission)

          ๑. พัฒนาโรงเรียนให้มีคุณภาพ บรรยากาศเอื้อต่อการเรียนรู้

          ๒. พัฒนาผู้เรียนให้มีคุณภาพตามมาตรฐานการศึกษา มีความรู้คู่คุณธรรม เป็นพลเมืองดี มีวินัย รักความเป็นไทย และดำรงตนอย่างมีความสุข

          ๓. ส่งเสริม พัฒนาครูและบุคลากรทางการศึกษา ให้มีสมรรถนะตรงตามสายงาน  และมีวัฒนธรรมการทำงานที่มุ่งเน้นผลสัมฤทธิ์อย่างมืออาชีพ

          ๔. บริหารจัดการโรงเรียนโดยใช้โรงเรียนเป็นฐาน ตามหลักธรรมาภิบาลและหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง

          ๕. ส่งเสริมประสานความร่วมมือกับผู้ปกครอง ศิษย์เก่า ภาคีเครือข่าย ผู้นำทุกภาคส่วนในชุมชนเพื่อสนับสนุนการจัดการศึกษา

          ๖. ส่งเสริมการน้อมนำหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง

เป้าประสงค์

เป้าประสงค์ (Goal)

  ๑. ห้องเรียน สะอาด บรรยากาศเอื้อต่อการเรียนรู้ สภาพแวดล้อมในโรงเรียน ร่มรื่น สวยงาม

  ๒. ผู้เรียนทุกคนมีความสามารถในการอ่านออก เขียนได้ คิดเลขเป็น มีคุณภาพตามมาตรฐานการศึกษา

          ๓. ผู้เรียนมีผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนสูงขึ้น ทั้งระดับโรงเรียน ระดับเขตพื้นที่ และระดับประเทศ

          ๔. ผู้เรียนทุกคนมีวินัย มีคุณธรรมจริยธรรม ค่านิยม และคุณลักษณะอันพึงประสงค์

          ๕. ผู้เรียนทุกคน มีทักษะความรู้ความสามารถ และดำรงชีวิตตามหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง

          ๖. ครูและบุคลากรทางการศึกษาทุกคน มีสมรรถนะตรงตามสายงาน จัดการเรียนรู้ได้อย่างมีประสิทธิภาพและมีวัฒนธรรมการทำงานที่มุ่งเน้นผลสัมฤทธิ์อย่างมืออาชีพ

          ๗. ผู้ปกครอง ศิษย์เก่า ผู้นำชุมชน และภาคีเครือข่ายมีส่วนร่วมในการสนับสนุนการจัดการศึกษาที่มีคุณภาพ